วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558

บ้านยอดมนุษย์ ... ของเก่าหัวใจย้อนยุค !!!


ร้านกาแฟไทยๆ ตกแต่งแบบย้อนยุค  "บ้านยอดมนุษย์" ซึ่งอยู่ก่อนถึงสี่แยกไฟแดงตลาดบางพระ จ. ชลบุรี แค่นิดเดียว เผื่อใครที่สนใจของเก่าๆ และของโบราณ เวลาผ่านไปแวะเข้าไปชมได้น่ะค้าฟฟ



สถานที่ตั้ง : "ร้านบ้านยอดมนุษย์" ร้านตั้งอยู่ ติดถนนสุขุมวิท ต.บางพระ ชลบุรี ก่อนถึงตลาดบางพระ










ร้าน "บ้านยอดมนุษย์" หาไม่ยาก เพราะอยู่ติดริมถนนสุขุมวิท ถ้าไปจากกรุงเทพฯ มุ่งตรงไปทางอำเภอศรีราชา ก่อนเข้าตลาดบางพระประมาณ 500 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ บ้านยอดมนุษย์เป็นร้านเล็กๆ น่ารักขนาดสามคูหา ด้านหน้าร้านจะมีหุ่นอุลตร้าแมนขนาดใหญ่เท่าคนจริงตั้งเด่นอยู่เห็นได้แต่







ทันทีที่เข้าไปภายในร้าน ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอดีตที่เคยคุ้นเคยสมัยที่เรายังเป็นเด็กๆ เพราะภายในจะตกแต่งด้วยของเล่นเก่าจำพวกตุ๊กตุ่นตุ๊กตายอดมนุษย์ที่เราเคย หุ่นยนต์โยนทอยเส้น ของเล่นสมัยเก่าหลากหลายชนิด ของเล่นสังกะสี ป้ายโฆษณาโบราณ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อนที่หาดูได้ยาก ใครที่ชอบของเก่าๆ แบบย้อนยุค แวะมาร้านนี้น่าจะชอบ

ภายในร้านตกแต่งด้วยภาพถ่ายและของเล่นเหล่ายอดมนุษย์ ขวัญใจเด็กๆ 


หุ่นตัวโตในชุดเคนโด้ เคยเห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นบ่อยๆ เพิ่งได้มาเห็นของจริงที่นี่

อุลตร้าแมน ฮีโร่ของเด็กๆ ทั่วโลก


 เข้าไปดูด้านในร้านกันเลยดีกว่า


ในห้องด้านหลังหุ่นผู้พัน ยังมีของเก่าๆ ให้ชมกันอีกมากมาย


โต๊ะสำหรับนั่งทานกาแฟ ดัดแปลงจากจักรเย็บผ้าเก่า


ห้องด้านข้าง เต็มไปด้วยของเก่าหาดูยาก


ส่วนหนึ่งของบรรดาของเก่าที่จัดแสดงอยู่ในห้อง


โทรทัศน์ขาวดำโบราณ ตั้งแต่สมัยคุณตาคุณยายยังเด็ก


จุดชงกาแฟเล็กๆ

รับกาแฟสักแก้วมั้ยค้าฟ


ของเล่นในวัยเด็กของหลายๆ คนเยอะมั่กกกกก


รถของเล่น

ห้องจัดแบบโบราณ (สไตล์ย้อนยุค)


กระทิงแดงสักขวดมั้ยค้าฟฟฟ

ไขโหล ...มุมของเล่นเด็กวัยรุ่นยุคก่อน



หนังสือแบบเรียนชั้นประถมสมัยเก่า

หุ่นยนต์แบบนี้  เด็กๆ เอาไว้ใช้เล่นทอยเส้น

นั่งรอก๋วยเตี๊ยว  .. ถ่ายรูป  จนหิวววววว


ก๋วยเต๊่ยวไข่ต้มยำ


    ผมใช้ย้อนรำลึกไปถึงวัยเด็กกับของเล่นเก่าๆ ภายในร้าน "บ้านยอดมนุษย์" ตื่นตาตื่นใจไปกับของเล่นหลากชนิดภายในร้าน จนถึงขนาดนั่งไม่ติดที่กันเลยทีเดียว ใครที่ขับรถผ่านไปและอยากย้อนอดีตวัยเด็กแบบผม ก็แวะเข้าไปชิมกาแฟ ก๋วยเตี๋ยวในร้านกันไดน่ะค้าฟฟ

















ปราสาทสัจธรรม ตื่นตาตื่นใจ แอ๊คท่าถ่ายรูป กับปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก (1 วัน)




 .....คนไทยถ้าตั้งใจจะทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก.....และหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทยที่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้เป็นอย่างดีก็คือ ปราสาทสัจธรรม .....ปราสาทไม้แกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี...

ถึงแม้ผมจะเคยมาเที่ยวเมืองพัทยาอยู่บ่อยๆ จนแทบนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่เคยได้แวะเข้าไปเยี่ยมชม "ปราสาทสัจธรรม" แม้แต่ครั้งเดียว อาจเป็นเพราะค่าเข้าชมซึ่งตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูงมาก หากเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน ไปพัทยาครั้งล่าสุดนี้ ผมจึงตัดสินใจแวะเข้าไปชมปราสาทสัจธรรม เพื่อให้เห็นกับตาตัวเองว่าจะอลังการงานสร้างคุ้มกับค่าเข้าชมหรือไม่ .....





ปราสาทสัจธรรม   เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลืออำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยได้รับการขนานนามให้เป็นสถาปัตยกรรมไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยตัวปราสาทที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง บนพื้นที่ 80 ไร่ ตัว ปราสาทเป็นทรงจตุรมุข สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร ภายในประกอบด้วยห้องจตุรมุข 4 ห้องและห้องโถงบริเวณตรงกลางปราสาท และภายนอกแกะสลักด้วยลวดลายที่มีความวิจิตรงดงาม ถ่ายทอดออกมาในรูปธรรมที่สามารถสัมผัสได้ และได้ให้ความหมายในด้านนามธรรมควบคู่กันไป สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออกได้เป็นอย่างดี

+ ภาพแรกของปราสาทสัจธรรมที่ได้เห็นจากบนจุดชมวิว ตระการตามากๆ +

+ ปราสาทไม้แกะสลักแห่งนี้ ใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ +

+ กว่าจะมาเป็นปราสาทสัจธรรมทุกวันนี้ ผู้สร้างต้องลงทุนลงแรงไปมากมาย +


+ ลองเข้าไปพิสูจน์กันดูดีกว่าครับ ว่าที่นี่จะคุ้มราคาค่าเข้าชมหรือไม่ +



          "ปราสาทสัจธรรม" ตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ในเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ หากมาด้วยรถส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ขับมาตามถนนสุขุมวิท ถึงแยกทางเข้าพัทยาเหนือแล้วให้เลี้ยวขวา เมื่อถึงวงเวียนปลาโลมา ก็เลี้ยวขวาอีกครั้งไปตามถนนนาเกลือ เมื่อถึงซอยนาเกลือ 12 ให้เลี้ยวเข้าซอย ขับตรงไปเรื่อยๆ จนเกือบสุดซอย ใช้เวลาไม่นานก็ถึง 

เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. 
เสียค่าชม ชาวไทยและชาวต่างชาติ 500 บาท
เด็กความสูงไม่เกิน 110 เซนติเมตร  250 บาท   

 หลังจากซื้อบัตรเข้าชมที่สำนักงานบริเวณประตูทางเข้าแล้ว จะมีรถม้าพาเราไปส่งที่บริเวณทางเดินลงไปชมตัวปราสาท วันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม "ปราสาทสัจธรรม" กันมากพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีคนไทยมาเที่ยวกันไม่มากนัก เราต้องเดินลงเนินเขาไปตามบันไดทางเดินที่ทำจากไม้ เพื่อลงไปยังหาดทรายด้านล่างซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวปราสาท ไปถึงแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปนั่งรอชมการแสดง ซึ่งจะจัดแสดงเป็นรอบๆ เป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การร่ายรำพื้นบ้าน การฟันดาบ ซึ่งดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่มากเลยทีเดียว .....

 

พร้อมตะลุยปราสาทแว้วว



ก่อนเข้าไปอย่าลืมหยิบหมวกกันกระแทกสีขาวมาด้วย เพราะบริเวณภายในปราสาท ยังมีการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา ใส่หมวกป้องกันไว้ก่อน





 ปราสาทสัจธรรม   เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของศาสนา ปรัชญา จริยธรรม อารยธรรม วัฒนธรรมดีงามของชาวเอเชียตะวันออก ซึ่งสะท้อนถึงจริยธรรม วัฒนธรรม หน้าที่ ศีลธรรมในอดีต สู่รูปองค์เทพต่างๆ  ก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหมด แม้แต่ตัวล็อกที่เอาไว้เชื่อมไม้แกะสลักแต่ละชิ้นก็ไม่ใช้ตะปู แต่ใช้การเข้าเดือย ตอกสลัก ตอกลิ่ม และเข้าหางเหยี่ยว แบบไทย แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในแทบทุกรายละเอียด

+ ตัวปราสาทใหญ่โตอลังการมากๆ ช้างเหลือตัวนิดเดียวเอง +

จุดนี้แหละค้าฟ  ที่เราจะเสียตังตอนกลับ (รูปถ่าย)

สถาปัตยกรรมต่างที่สร้างขึ้นแต่ละชิ้นมีความหมาย อย่างเช่น ยอดหลังคาพรหมสี่หน้าที่ เห็นโดดเด่นอยู่ด้านหน้าปราสาท  สร้างให้เป็นสื่อถึงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของผู้ปกครอง ทั้ง พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ผู้บริหาร ผู้นำประเทศ และพระเจ้าแผ่นดินที่ตั้งอยู่บน พรหมวิหารธรรม 4

..........ลวดลายแกะสลักอันอ่อนช้อยโดยรอบตัวอาคาร.....

+ ผลงานไม้แกะสลักแต่ละชิ้น ทำออกมาได้สวยงามละเอียดละออจริงๆ +

ตีฆ้องซะโหน่ย 

 

การเข้าชมในแต่ละรอบจะมีมัคคุเทศน์คอยนำชมและให้ความ รู้เกี่ยวกับปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ด้วย หากใครตั้งใจฟังก็จะได้ข้อมูลติดตัวกลับบ้านไปมากมาย แต่สำหรับผม ไม่ค่อยได้ตามฟังข้อมูลเท่าไหร่นัก มัวแต่ห่วงถ่ายภาพมากกว่า

..............ความวิจิตรแห่งไม้แกะหลัก..........

จากความจริงอันเป็นอมตะ...............ถูกถ่ายทอดสู่ศิลปะเชิงสัญลักษณ์




.....ทุกชิ้นส่วนล้วนรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจง.......

 สำหรับยอดสูงสุดของปราสาทสัจธรรมซึ่งตั้งอยู่ กึ่งกลางระหว่างยอดทั้ง 4 ด้านนั้นสลักเสลาเป็นรูปเทพยดาขี่ม้าโดยชูนกเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง แทนสัญลักษณ์ของพระเมตไตรยโพธิสัตว์.....ผู้ซึ่งเคยได้รับคำพยากรณ์จากพระโค ตมพุทธเจ้าว่าจะได้ตรัสรู้เป็น พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า.....พระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัป (กัป : น. ระยะเวลาตั้งแต่การอุบัติขึ้นของโลกจวบจนกระทั่งถึงโลกถูกทำลาย , ภัทรกัป : น. กัปอันเจริญ คือ กัปในปัจจุบันนี้ซึ่งมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้แล้วถึง 4 พระองค์ ได้แก่ พระกกุสันธพุทธเจ้า.....พระโกนาคมนพุทธเจ้า.....พระกัสสปพุทธเจ้า.....พระโคตมพุทธเจ้า และ ได้มีการอ้างอิงพุทธทำนายของพระโคตมพุทธเจ้าไว้ว่า.....พระศรีอริยเมตไตรย พุทธเจ้า.....จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายที่ลงมาจุติในภัทรกัปนี้)

ด้านบนของบุษบก


รูปสลักภายในโถงด้านทิศใต้ : ผู้สร้างวิถีชีวิตและความเป็นไปแก่โลก 

เพียงแค่แหงนหน้าขึ้นมองเพดาน..........ก็จะได้พานพบกับความอลังการในสายตา

ในศาสนาพุทธ.....มีคติว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วน แล้วแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปตามเหตุปัจจัยซึ่งหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.....ไม่เว้นแม้ แต่โลกหรือจักรวาล เมื่อมีเหตุปัจจัยที่เหมาะสมของสสาร แร่ธาตุ และพลังงาน เมื่อนั้นจักรวาล.....โลก.....รวมถึงสรรพสิ่งต่างๆ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตก็จะถือกำเนิดขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่ได้มีจุดเริ่มต้น.....จุดจบ หรือ ตัวตนที่แท้จริง.....หากแต่เป็นเพียงกระบวนการธรรมดาตามธรรมชาติเท่านั้น

 เมื่อค่อยๆ เดินชมทั้งภายนอกและภายในตัวปราสาทสัจธรรมจนถ้วนทั่ว เราจะได้พบกับห้องโถงและชิ้นงานแกะสลักอันงดงามมากมายซึ่งแฝงไว้ด้วยความ หมายดังต่อไปนี้



บันไดทางเดินซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโถงกลางและโถงด้านทิศตะวันออก

+ รูปสลักเทพเจ้าแห่งลมที่อยู่ภายในห้องแรก 

สื่อความหมายถึงการกำเนิดของจักรวาลและสรรพชีวิต +

+ ศิลปะการแกะสลักไม้บริเวณริมหน้าต่าง 

เป็นภาพสลักแบบนูนสูง สวยและอ่อนช้อยมาก +


+ แม้ภายนอกแดดจะร้อน แต่เข้ามาภายในแล้วจะเย็นสบายด้วยลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา +


ไหว้พระประจำวันจันทร์ซะโหน่ย

แสงสีสลัวในโถงกลาง....................สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

+ แสงเงาที่ทาบทาอยู่บนงานไม้แกะสลัก ช่วยขับให้รูปทรงดูเด่นชัด และน่าสนใจยิ่งขึ้น +

เบื้องหลังการถ่ายภาพค้าฟฟ

กราบไหว้พ่อของแผ่นดิน



+ มีงานไม้แกะสลักสวยๆ แบบนี้ให้ชมอยู่ทั่วทุกมุมของปราสาท +

....คล้ายกับว่า..........ไม้มีชีวิต ?





การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยมีให้ชมกันฟรี ๆ ในเวลา 11.30 น.และ 14.30 น
.ลานวัฒนธรรมยามเย็น
ใครอยากเป็นอัศวินขี่ม้าขาว.........................เชิญทางนี้

นอกจากที่นี่จะมีงานไม้แกะสลักสวยๆ ให้ชมกันแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เลือกทำอีกด้วย เช่นการนั่งรถม้าหรือนั่งช้างชมรอบปราสาท การนั่งเรือออกไปชมวิวปราสาทในมุมมองจากท้องทะเล มีแม้กระทั่งการขับรถ ATV หรือนวดฝ่าเท้า แต่ละกิจกรรมก็ต้องเสียเงินซื้อเป็น package เพิ่มขึ้นจากค่าเข้าชมปกติ ...


          แต่มีกิจกรรมอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม คือการชม "การแกะสลักไม้" ซึ่งช่างฝีมือจะทำงานอยู่ในโรงแกะสลัก เราสามารถเข้าไปชมขั้นตอนการแกะสลักได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก่อนกลับบ้านก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก ซึ่งมีผลงานไม้แกะสลักให้เลือกซื้อกลับไปตกแต่งบ้านกันอีกด้วย .....



แบบจำลองปราสาทสัจธรรม
+ ช่างฝีมือกำลังทำงานแกะสลักไม้อยู่ภายในโรงแกะสลัก +

แวะซื้อกล้วยให้ช้างซะโหน่ย  ขาย 3 หวี 100 บาทค้าฟ 


น่งสงสารจุงเบย.. นายโดนล่ามด้วย

ดูขาเพ่ช้างซะก่อง


กิงเก่งเจงๆๆ เบยน้า  3 หวีเลย


หลังจากที่ผมได้มาชมความ อลังการของงานไม้แกะสลักอันวิจิตรตระการตาของปราสาทสัจธรรมด้วยตนเองในวันนี้ สำหรับผม คิดว่าราคาค่าเข้าชม 500.-  ผมว่ามันไม่แพง
 เมื่อเทียบกับความตั้งใจจริงและความยากลำบากในการก่อสร้างและบูรณะปราสาท แห่งนี้ หากใครชอบดูผลงานศิลปะแบบไทยๆ และการถ่่ายรูป ผมคิดว่าไม่น่าจะผิดหวังน่ะค้าฟฟฟ 





@ปราสาทสัจธรรม  ตื่นตาตื่นใจแอ๊คท่าถ่ายรูป กับปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก (5-12-14)