การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ (พม่า) ครั้งนี้ เหนื่อยน่ะคัฟ บอกเลย
แต่มันทำให้ผมพบความสุข อิ่มบุญ และความหวังจากเส้นทางที่ได้เดินทาง
ทั้งจุดชมวิวสวยๆ ร้านอาหารที่อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง wifi ที่หาเจอบ้าง
ไม่ถึง 5 นาทีก็หายไป แต่ในการเดินทางครั้งนี้
ผมได้มิตรภาพจากเพื่อนร่วมทาง และรอยยิ้มจากคนพม่า
การเดินทางไปพม่าไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดน่ะคัฟ ไม่ต้องกลัวจะเหงาด้วย
เพราะมีหลายสิ่งให้เราทำ ทั้งการไหว้พระ การขอพร
ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับผม
|
@ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองพม่า
|
เดินทางออกจากดอนเมือง ---> สู่เมืองย่างกุ้ง - กราบพระเทพทันใจ / เทพกระซิบ
|
เตรียมตัว Check in เดินทางแว้วว
|
|
กำลังขึ้นเครื่องแล้วค้าฟฟฟ
|
|
เถิงแว้วค้าฟ !!! สนามบินย่างกุ้ง
|
|
แผนที่การเดินทางใน "ย่างกุ้ง"
|
|
แลกเงินจ๊าด แร้วผมรวยมั่กกก
|
เดินทางสู่ เมืองสิเรียม (Thanlyin) อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งประมาณ 7 กิโลเมตร เพื่อไปไหว้สักการะ เจดีย์กลางน้ำ หรือ พระเจดีย์เยเลพญา (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) เจดีย์จะตั้งตระหง่านอยู่บนเกาะกลางนํ้าเป็นที่สักการะของชาวสิเรียมบริเวณท่าเทียบเรือ
|
ท่าเทียบเรือคัฟ
|
|
เตรียมตัวนั่งเรือ ไปเจดีย์กลางน้ำค้าฟฟ
|
|
เจดีย์กลางน้ำ หรือ พระเจดีย์เยเลพญา
|
|
ระหว่างยืนรอขึ้นเรือค้าฟฟฟ
|
|
พระเทพทันใจ ของเจดีย์กลางน้ำ
|
|
รถสามล้อของเมืองพม่า
|
|
ร้านขายกล้วย เยอะมาก (น่ากินฟุดๆ)
|
เดินทางต่อไปกราบนมัสการ เจดีย์โบตาทาวน์ ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้ นำมาเมื่อ 2,000 ปี ก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคำ บรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ และพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700 องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลี และตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
|
บรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุ
|
วิธีการสักการะรูปปั้น
เทพทันใจ (นัตโบโบยี)
เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปราถนาก็ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน
กล้วย จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้
แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยี 1 ใบ ไหว้ขอพรแล้ว ดึงกลับมา 1 ใบ
เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี
แค่นั้นก็จะสมตามความปราถนาที่ตั้งใจไว้
|
มะพร้าวอ่อน กล้วย
|
|
เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี เพื่อขอพร
|
เสร็จแล้วก็ข้ามถนน เพื่อไปสักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ” ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว
การขอพรเทพกระซิบต้องเข้าไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน การ บูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยนํ้านม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
|
เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า “อะมาดอว์เมี๊ยะ”
|
|
บูชาด้วยนํ้านม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้
|
|
นำนมให้เทพกระซิบทานก่อน
|
|
การขอพรเทพกระซิบต้องเข้าไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน
|
แวะเที่ยว ณ ตลาดโบโจ๊กอองซาน (Bogyoke Aung San) หรือ ตลาดสก๊อต (ScotMarket) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า
|
ทะนะคา (สาวพม่าชอบมั่ก)
|
|
ร้านขายข้าวในตลาด
|
นมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิงเจดีย์ทองคำคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี
มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า มีความสูงถึง 326 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าโอกะลาปะ เจดีย์ชเวดากองเป็นลานกว้างรองรับแรงศรัทธาของ พุทธศาสนิกชนได้จำนวนมาก บริเวณทางขึ้นทั้งสี่ทิศจะมี วิหารโถงสร้างด้วยเครื่องไม้หลังคาทรงปราสาทปิดทองล่องชาดประดับกระจกทั้งหลัง
ภายในประดิษฐานพระประธานสำหรับให้ประชาชนมากราบไหว้บูชา เพราะชาวมอญและชาวพม่าถือการกราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากอง นำมาซึ่งบุญกุศลอันเป็นหนทางสู่การหลุดพ้นทุกข์โศกโรคภัยทั้งมวล
บ้างนั่งทำสมาธิเจริญสติภาวนานับลูกประคำ และบ้างเดินประทักษัณรอบองค์เจดีย์ จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุด จะได้เห็นแสงสีต่างกันออกไป เช่น สีเหลือง, สีนํ้าเงิน, สีส้ม, สีแดง เป็นต้น
(สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิษฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนำดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากรอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงนํ้าพระประจำวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต)
|
ลิฟท์สำหรับขึ้นไปบนพระมหาเจดีย์
|
|
ดอกไม้สำหรับไหว้บูชาพระประจำวันเกิด
|
|
เตรียมตัวสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง
|
|
กราบไหว้พระพุทธเจ้าในปางต่างๆๆ
|
|
เตรียมตัวไหว้พระประจำวันเกิด
|
|
ผมเกิดวันจันทร์ ต้องรดน้ำ 15 ขัน
|
|
ส่วนนี้กำลังต่อเติมน่ะค้าฟฟ
|
|
บรรยากาศยามค่ำคืน |
บรรยากาศบริเวณพระธาตุยามค่ำคืน ผมบอกเลย สวยกว่าตอนกลางวันมากๆๆๆ
|
ผู้คนที่มาส่วนมาก สวดมนต์ นั่งสมาธิ
|
หมดแรงหมดสภาพแว้วว ... หาของหม่ำๆๆๆ กลับเข้าที่พักขอนอนเอาแรงไว้เที่ยวต่อพรุ่งนี้
เดินทางสู่กรุงหงสา - ไหว้พระธาตุอินแขวน - พระนอนตาหวาน
สักการะ พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน (Kyauk Htatgyi Buddha) นมัสการพระพุทธรูปนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต ซึ่งเป็นพระที่มีตาสวยงามที่สุดในประเทศพม่า มีขนตาที่งดงาม ชมพระบาทที่มีภาพมงคล 108 ประการ
|
พระพุทธไสยาสน์เจ๊าทัตจี หรือ พระนอนตาหวาน
|
|
พระนอนที่มีความยาว 55 ฟุต สูง 16 ฟุต
|
|
มงคล 108 ประการ
|
เดินทางสู่ เมืองหงสาวดี หรือ เมืองพะโค (Bago) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุด
ของเมืองมอญโบราณที่ยิ่งใหญ่และอายุมากกว่า 400 ปี อยู่ห่างจากย่างกุ้ง (ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) ร่วมทำบุญตักบาตร
ณ วัดไจ้คะวาย ซึ่งเป็นวัดสำคัญมีพระสงฆ์ จำพรรษากว่า500 รูป อีกทั้งวัดนี้ยัง เป็น
สถานที่ศึกษาพระไตรปิฎกของพระภิกษุและสามเณร
|
ใส่บาตรพระสงฆ์ 500 รูป
|
นมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว กราบนมัสการ พระพุทธรูปนอนที่มีพุทธลักษณะที่สวยงามในแบบของมอญ ในปี พ.ศ.2524 ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวพม่าทั่วประเทศ และเป็นพระนอนที่งดงามที่สุดของพม่า
|
พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว
|
|
ไกด์นำเที่ยวเมืองพม่าค้าฟฟ
|
เดินทางขึ้น เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน Kyaikhtiyo Pagoda (Golden Rock) หรือก้อนหินทอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งสิ่งสักการะสูงสุดของชาวพม่า เป็นเจดีย์ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทอง ที่วางหมิ่นเหม่ อยู่บนหน้าผา แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไป
ตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนา พระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็น พระธาตุ ปีเกิดของปีจอ แทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ โดยเชื่อว่าถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดัง ปรารถนาทุกประการ และสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน
|
รถท้องถิ่น สำหรับขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน
|
|
พร้อมแว้วค้าฟ .. ขึ้นๆๆ
|
|
ไกด์นำทางสุดหล่อของโพ้มม
|
|
รถสวนระหว่างทางขึ้นค้าฟฟ
|
|
จอดรอรถที่จะสวนมา (ขาลง)
|
มาถึงแล้วค้าฟ ใช้เวลาเดินทางสักพัก เพื่อเดินทางสู่ยอดเขา โชคดีมากๆ ค้าฟ ที่พักของผมอยู่ติดกับพระธาตุเลยคัฟ
|
เสลียง สำหรับคนไม่อยากเดิน
|
|
ต้องไปติดต่อจ่ายค่าขึ้นก่อนน่ะค้าฟ ประมาณ 40 บาท
|
|
มองเห็นพระธาตุไกล ๆ สวยมั่กๆ ค้าฟ
|
(พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กที่เปิดสำหรับสุภาพบุรุษที่เข้า
ไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00น. ส่วนสุภาพสตรี
สามารถอธิษฐานและฝากสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้
ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคำไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวน)
|
พระธาตุอินทร์แขวน สวยสุดๆค้าฟ
|
ดอกไม้ ธูปเทียน ชุดละ 800 จ๊าด ส่วนทองคำ ชุดละ 1800 จ๊าด กระดิ่ง 3600 จ๊าด
หลังจากซื้อชุดบูชาแล้ว ก็มาตั้งจิตอธิษฐานหน้าองค์พระธาตุคัฟ
|
จุดธูป เทียน บูชาพระธาตุอินทร์แขวน
|
หลังจากไหว้ขอพรเสร็จแล้ว ก็นำกระดิ่งมาผูกที่ด้านหน้าพระธาตุ (ทางด้านขวา) ห้ามนำกลับไปที่ห้องน่ะค้าฟ (เดี๋ยวจะนอนไม่ได้)
หลังจากกราบไหว้เสร็จแล้ว ผมก็กลับห้องพักก่อนเลย ไปอาบน้ำก่อน เพราะจะกลับมาสวดมนต์หน้าพระธาตุอีกรอบ
ออกมาอีกทีก็เกือบ 4 ทุ่มแว้วค้าฟ บรรยากาศเงียบมากๆ น่านอน อากาศเย็นฟุด
|
พร้อมสวดมนต์แว้วค้าฟ
|
|
บรรยากาศรอบพระธาตุยามค่ำคืน
|
ผมใช้เวลาสวดมนต์ ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เดินขึ้นบันได เพื่อกลับห้องพัก แต่ก็น่ะ ไหนๆ มาแล้วขอแอ็คท่าถ่ายรูปกับพระธาตุเสียโหน่ย
|
ท่านี้ยอดฮิตเลยทีเดียว
|
เริ่มไม่ไหวแล้วคัฟ อากาศเย็นมาก ๆ หนาวแล้ว ถ่ายรูปเสร็จรีบกลับห้องพักเลยคัฟ เพราะพรุ่งนี้เช้าจะต้องตื่นมาใส่บาตรพระธาตุแต่เช้า ฝันดีคัฟ (ผมได้ไหว้พระธาตุ 2 ครั้งแล้ว)
พระธาตุอินทร์แขวน - พระธาตุมุเตา - พระพุทธรูปไจ้ปุ่น
เย้ๆ ๆ เช้าแว้ว ใส่บาตรพระธาตุ ค่าอาหารใส่บาตร ประมาณ 3000 จ๊าด ดอกไม้ ธูป เทียน 300 จ๊าด
|
ชุดอาหารสำหรับใส่บาตรพระธาตุ
|
เก็บภาพบรรยากาศยามเช้าซะโหน่ย อากาศดีมั่กๆ เลยค้าฟ
|
มุมถ่ายภาพยอดฮิตเบยค้าฟฟ
|
|
บรรยากาศยามเช้าของชาวพม่าที่เดินทางมาไหว้พระธาตุ
|
|
เตรียมเก็บสัมภาระเดินทางกลับค้าฟฟ
|
|
ขนมไม่รู้ชื่ออ่ะค้าฟฟ ... แต่คนพม่ากินเยอะมั่กกก
|
แวะหาหมอเทวดาสักหน่อย ใครป่วย หรือปวดเมื่อยตรงไหน ก็ลูบบริเวณที่ปวดเลยค้าฟ
|
ลูบบริเวณที่ปวด ผมลูบทั้งตัวเบย
|
|
ตอนขามาไม่ได้ถ่ายรูปทางขึ้น ขากลับถ่ายซะโหน่ย
|
เจดีย์ชเว-มอดอร์ หรือ พระธาตุมุเตา (Shwe Mordore) ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี พระเจดีย์องค์นี้ถือว่ามีความโดดเด่นในหลายๆด้าน เก่าแก่กว่า 2,600 ปี ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิสำคัญสูงสุดของชาวพม่ายอดเจดีย์หักซึ่งชาวมอญและชาวพม่าเชื่อกันว่าเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์มาก (ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ และสามารถธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์องค์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเปรียบเหมือนดั่ง ค้ำจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป) ซึ่งเจดีย์นี้ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชของไทยเคยมาสักการะ เจดีย์องค์นี้เป็นศิลปะที่ผสมผสานระหว่างศิลปะพม่าและศิลปะของมอญได้อย่างกลมกลืน พระเจดีย์สูง 114 เมตร สูงกว่า พระเจดีย์ชเวดากอง 14 เมตร มีจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงบริเวณยอดฉัตร ที่ตกลงมาเมื่อปี พ.ศ. 2473 ด้วยน้ำหนักที่มหาศาล ตกลงมายังพื้นล่างแต่ยอดฉัตร กลับยงคงสภาพเดิมและไม่แตกกระจายออกไป เป็นที่รำ่ลือถึงความศักดิ์ -สิทธ์โดยแท้ และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่พระเจ้าหงสาลิ้นดำ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบันจากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังบุเรงนอง สถานที่ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์
|
อ่านไม่ออกแหะๆๆๆ
|
|
พระธาตุมุเตา
|
|
เจดีย์ชเว-มอดอร์
|
|
จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์ นำธูปไปค้ำกับยอดของเจดีย์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล
|
|
ขอสักโหน่ย..
|
|
อากาศร้อนฟุดๆ แต่สวยมว้ากก
|
|
กราบไหว้พระขอพรสักโหน่ย
|
|
บอกเลย .. พื้นร้อนฟุดดดด
|
พระราชวังบุเรงนอง สถานที่ซึ่งมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของไทย คือ บริเวณที่เคยเป็นพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนอง สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 แต่ได้ถูกทำลายด้วยฝีมือของพวกยะไข่กับตองอูในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ในปี พ.ศ. 2142 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคำสรรเสริญว่าเป็ น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของพระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึก เมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์และถูกสร้างจำลองพระราชวังและตำหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองไจ้โท แห่งรัฐมอญ ระหว่างทางท่านจะข้ามผ่านชมแม่น้ำสะโตง สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในอดีตขณะที่สมเด็จพระนเรศวรกำลังรวบรวมคนไทยกลับอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตามซึ่งนำทัพโดย สุรกรรมาเป็นกองหน้าพระมหาอุปราชาเป็นกองหลวง สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนต้นคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมา แม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพพม่าเห็นขวัญเสีย จึงถอยทัพ กลับกรุงหงสาวดี
|
ทางเข้าพระราชวังบุเรงนอง
|
|
ส่วนท้องพระโรง ของพระราชวังบุเรงนอง
|
|
ปืนใหญ่ที่พม่าเอามายิงกรุงศรี
|
|
ไม้ที่ใช้ทำพระราชวังเก่าแก่มากๆๆ
|
|
ท้องพระโรงที่บุเรงนอง ว่าราชการ
|
|
สวยฟุดๆๆ
|
นมัสการ พระพุทธรูปไจ้ปุ่น (Kyaik Pun Buddha) ซึ่งบูรณะเมื่อ พ.ศ.2019 มีพระพุทธรูปปางประทับนั่ง โดยรอบทั้ง 4 ทิศ ประกอบด้วย องค์สมเด็จพระสมณโคดม สัมมาสมพุทธเจ้า (หันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ) กับ พระพุทธเจ้าในอดีต 3 พระองค์คือ 1. พระพุทธเจ้า โกนาคมโน (ทิศใต้) 2. พระพุทธเจ้า กกุสันโธ (ทิศตะวันออก) 3. พระพุทธเจ้า มหากัสสะปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดย 4 สาวพี่น้อง ที่อุทิศตน ให้กับพระพุทธศาสนา สร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตน ไม่ข้องแวะ กับบุรุษเพศ จะรักษาพรหมจรรย์ไว้ชั่วชีวิต ต่อมา 1 ใน 4 สาวหนีไปแต่งงาน ร่ำลือกันว่าทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นเกิดรอยร้าวขึ้นทันที
มาเที่ยวพม่าแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ก่อนกลับต้องไปนมัสการ พระหินอ่อน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่าด้วย ไม่งั้นจะถือว่ามาไม่ถึงพม่าน่ะคัฟ แต่เสียดายที่มีกระจบครอบไว้รอบเลยที่เดียว
|
ทางเดินขึ้นมีพรมปูให้เสร็จสรรพ
|
|
พระหินอ่อน ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า
|
|
บรรยากาศรอบนอก ก่อนพระอาทิตย์ตก
|
เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยแว้วว ... รอๆๆๆ ขึ้นเครื่องกลับรอบ 21.00 น. เที่ยวบินที่ DD4239 กะไว้แล้วว่าขึ้นเครื่อง ได้ที่นั่ง ผมจะงีบแหละ ก็เล่นตะลอนทัวร์มาทั้งวันแล้วนินาเหนื่อยๆๆ อิ่มบุญ สุขใจ กับทริปสักการะ 3 มหาบูชาสถาน พระมหาเจดีย์ชเวดากอง-พระธาตุมุเตา-พระธาตุอินทร์แขวน
ผมบอกเลยว่าสิ่งสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ คือ กล้องถ่ายรูป มันสำคัญมากจริง ๆ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่บันทึกความทรงจำได้เป็นอย่างดี
และที่สำคัญคือรอยยิ้มของเพื่อนร่วมทาง ค่าใช้จ่ายในประเทศพม่า ผมหมดไปไม่ถึง 5,000 บาท รวมของฝาก และเงินทำบุญ และอีกมากมาย
อยู่ที่พม่าผมได้กินกุ้งมังกรแทบทุกมื้อ ทำให้ผมเอียนกุ้ง มั่กๆๆ อ้อ แตงโมด้วย 5555
ถ้ามีโอกาส ผมอยากกลับมาพม่าอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น