.....คนไทยถ้าตั้งใจจะทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก.....และหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองไทยที่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้เป็นอย่างดีก็คือ ปราสาทสัจธรรม .....ปราสาทไม้แกะสลักขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี...
ถึงแม้ผมจะเคยมาเที่ยวเมืองพัทยาอยู่บ่อยๆ จนแทบนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยังไม่เคยได้แวะเข้าไปเยี่ยมชม "ปราสาทสัจธรรม" แม้แต่ครั้งเดียว อาจเป็นเพราะค่าเข้าชมซึ่งตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูงมาก
หากเทียบกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงกัน ไปพัทยาครั้งล่าสุดนี้ ผมจึงตัดสินใจแวะเข้าไปชมปราสาทสัจธรรม
เพื่อให้เห็นกับตาตัวเองว่าจะอลังการงานสร้างคุ้มกับค่าเข้าชมหรือไม่ .....
ปราสาทสัจธรรม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช
ตำบลนาเกลืออำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
โดยได้รับการขนานนามให้เป็นสถาปัตยกรรมไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ด้วยตัวปราสาทที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง บนพื้นที่ 80 ไร่ ตัว
ปราสาทเป็นทรงจตุรมุข สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร
ภายในประกอบด้วยห้องจตุรมุข 4 ห้องและห้องโถงบริเวณตรงกลางปราสาท
และภายนอกแกะสลักด้วยลวดลายที่มีความวิจิตรงดงาม
ถ่ายทอดออกมาในรูปธรรมที่สามารถสัมผัสได้
และได้ให้ความหมายในด้านนามธรรมควบคู่กันไป
สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออกได้เป็นอย่างดี
|
+ ภาพแรกของปราสาทสัจธรรมที่ได้เห็นจากบนจุดชมวิว ตระการตามากๆ +
|
|
+ ปราสาทไม้แกะสลักแห่งนี้ ใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ + |
|
+ กว่าจะมาเป็นปราสาทสัจธรรมทุกวันนี้ ผู้สร้างต้องลงทุนลงแรงไปมากมาย +
|
|
+ ลองเข้าไปพิสูจน์กันดูดีกว่าครับ ว่าที่นี่จะคุ้มราคาค่าเข้าชมหรือไม่ +
|
"ปราสาทสัจธรรม"
ตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ในเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ หากมาด้วยรถส่วนตัวจากกรุงเทพฯ
ขับมาตามถนนสุขุมวิท ถึงแยกทางเข้าพัทยาเหนือแล้วให้เลี้ยวขวา
เมื่อถึงวงเวียนปลาโลมา ก็เลี้ยวขวาอีกครั้งไปตามถนนนาเกลือ
เมื่อถึงซอยนาเกลือ 12 ให้เลี้ยวเข้าซอย ขับตรงไปเรื่อยๆ จนเกือบสุดซอย
ใช้เวลาไม่นานก็ถึง
เปิดตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.
เสียค่าชม ชาวไทยและชาวต่างชาติ 500
บาท
เด็กความสูงไม่เกิน 110 เซนติเมตร 250 บาท
หลังจากซื้อบัตรเข้าชมที่สำนักงานบริเวณประตูทางเข้าแล้ว
จะมีรถม้าพาเราไปส่งที่บริเวณทางเดินลงไปชมตัวปราสาท
วันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม "ปราสาทสัจธรรม"
กันมากพอสมควร ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
มีคนไทยมาเที่ยวกันไม่มากนัก
เราต้องเดินลงเนินเขาไปตามบันไดทางเดินที่ทำจากไม้
เพื่อลงไปยังหาดทรายด้านล่างซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวปราสาท
ไปถึงแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปนั่งรอชมการแสดง ซึ่งจะจัดแสดงเป็นรอบๆ
เป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การร่ายรำพื้นบ้าน การฟันดาบ
ซึ่งดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอยู่มากเลยทีเดียว .....
|
พร้อมตะลุยปราสาทแว้วว
|
ก่อนเข้าไปอย่าลืมหยิบหมวกกันกระแทกสีขาวมาด้วย เพราะบริเวณภายในปราสาท
ยังมีการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา ใส่หมวกป้องกันไว้ก่อน
ปราสาทสัจธรรม เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของศาสนา ปรัชญา
จริยธรรม อารยธรรม วัฒนธรรมดีงามของชาวเอเชียตะวันออก
ซึ่งสะท้อนถึงจริยธรรม วัฒนธรรม หน้าที่ ศีลธรรมในอดีต สู่รูปองค์เทพต่างๆ
ก่อสร้างด้วยไม้ทั้งหมด
แม้แต่ตัวล็อกที่เอาไว้เชื่อมไม้แกะสลักแต่ละชิ้นก็ไม่ใช้ตะปู
แต่ใช้การเข้าเดือย ตอกสลัก ตอกลิ่ม และเข้าหางเหยี่ยว แบบไทย
แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถันในแทบทุกรายละเอียด
|
+ ตัวปราสาทใหญ่โตอลังการมากๆ ช้างเหลือตัวนิดเดียวเอง +
|
|
จุดนี้แหละค้าฟ ที่เราจะเสียตังตอนกลับ (รูปถ่าย)
|
สถาปัตยกรรมต่างที่สร้างขึ้นแต่ละชิ้นมีความหมาย อย่างเช่น ยอดหลังคาพรหมสี่หน้าที่
เห็นโดดเด่นอยู่ด้านหน้าปราสาท
สร้างให้เป็นสื่อถึงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของผู้ปกครอง ทั้ง พ่อ แม่ ครู
อาจารย์ ผู้บริหาร ผู้นำประเทศ และพระเจ้าแผ่นดินที่ตั้งอยู่บน
พรหมวิหารธรรม 4
|
..........ลวดลายแกะสลักอันอ่อนช้อยโดยรอบตัวอาคาร.....
|
|
+ ผลงานไม้แกะสลักแต่ละชิ้น ทำออกมาได้สวยงามละเอียดละออจริงๆ +
|
|
ตีฆ้องซะโหน่ย |
การเข้าชมในแต่ละรอบจะมีมัคคุเทศน์คอยนำชมและให้ความ
รู้เกี่ยวกับปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ด้วย
หากใครตั้งใจฟังก็จะได้ข้อมูลติดตัวกลับบ้านไปมากมาย แต่สำหรับผม
ไม่ค่อยได้ตามฟังข้อมูลเท่าไหร่นัก มัวแต่ห่วงถ่ายภาพมากกว่า
|
..............ความวิจิตรแห่งไม้แกะหลัก..........
|
|
จากความจริงอันเป็นอมตะ...............ถูกถ่ายทอดสู่ศิลปะเชิงสัญลักษณ์
|
|
.....ทุกชิ้นส่วนล้วนรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตบรรจง.......
|
สำหรับยอดสูงสุดของปราสาทสัจธรรมซึ่งตั้งอยู่
กึ่งกลางระหว่างยอดทั้ง 4
ด้านนั้นสลักเสลาเป็นรูปเทพยดาขี่ม้าโดยชูนกเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง
แทนสัญลักษณ์ของพระเมตไตรยโพธิสัตว์.....ผู้ซึ่งเคยได้รับคำพยากรณ์จากพระโค
ตมพุทธเจ้าว่าจะได้ตรัสรู้เป็น พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า.....พระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัป (กัป
: น. ระยะเวลาตั้งแต่การอุบัติขึ้นของโลกจวบจนกระทั่งถึงโลกถูกทำลาย ,
ภัทรกัป : น. กัปอันเจริญ คือ
กัปในปัจจุบันนี้ซึ่งมีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้แล้วถึง 4 พระองค์ ได้แก่ พระกกุสันธพุทธเจ้า.....พระโกนาคมนพุทธเจ้า.....พระกัสสปพุทธเจ้า.....พระโคตมพุทธเจ้า
และ
ได้มีการอ้างอิงพุทธทำนายของพระโคตมพุทธเจ้าไว้ว่า.....พระศรีอริยเมตไตรย
พุทธเจ้า.....จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายที่ลงมาจุติในภัทรกัปนี้)
|
ด้านบนของบุษบก
|
|
รูปสลักภายในโถงด้านทิศใต้ : ผู้สร้างวิถีชีวิตและความเป็นไปแก่โลก
|
|
เพียงแค่แหงนหน้าขึ้นมองเพดาน..........ก็จะได้พานพบกับความอลังการในสายตา
|
ในศาสนาพุทธ.....มีคติว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วน
แล้วแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่
และดับไปตามเหตุปัจจัยซึ่งหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.....ไม่เว้นแม้
แต่โลกหรือจักรวาล เมื่อมีเหตุปัจจัยที่เหมาะสมของสสาร แร่ธาตุ และพลังงาน
เมื่อนั้นจักรวาล.....โลก.....รวมถึงสรรพสิ่งต่างๆ
ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตก็จะถือกำเนิดขึ้น สิ่งต่างๆ
เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่ได้มีจุดเริ่มต้น.....จุดจบ หรือ
ตัวตนที่แท้จริง.....หากแต่เป็นเพียงกระบวนการธรรมดาตามธรรมชาติเท่านั้น
เมื่อค่อยๆ
เดินชมทั้งภายนอกและภายในตัวปราสาทสัจธรรมจนถ้วนทั่ว
เราจะได้พบกับห้องโถงและชิ้นงานแกะสลักอันงดงามมากมายซึ่งแฝงไว้ด้วยความ
หมายดังต่อไปนี้
|
บันไดทางเดินซึ่งเชื่อมต่อระหว่างโถงกลางและโถงด้านทิศตะวันออก
|
|
+ รูปสลักเทพเจ้าแห่งลมที่อยู่ภายในห้องแรก
สื่อความหมายถึงการกำเนิดของจักรวาลและสรรพชีวิต +
|
|
+ ศิลปะการแกะสลักไม้บริเวณริมหน้าต่าง
เป็นภาพสลักแบบนูนสูง สวยและอ่อนช้อยมาก +
|
|
+ แม้ภายนอกแดดจะร้อน แต่เข้ามาภายในแล้วจะเย็นสบายด้วยลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา +
|
|
ไหว้พระประจำวันจันทร์ซะโหน่ย
|
|
แสงสีสลัวในโถงกลาง....................สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
|
|
+ แสงเงาที่ทาบทาอยู่บนงานไม้แกะสลัก ช่วยขับให้รูปทรงดูเด่นชัด และน่าสนใจยิ่งขึ้น +
|
|
เบื้องหลังการถ่ายภาพค้าฟฟ
|
|
กราบไหว้พ่อของแผ่นดิน
|
|
+ มีงานไม้แกะสลักสวยๆ แบบนี้ให้ชมอยู่ทั่วทุกมุมของปราสาท +
|
|
....คล้ายกับว่า..........ไม้มีชีวิต ?
|
|
การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยมีให้ชมกันฟรี ๆ ในเวลา 11.30 น.และ 14.30 น |
|
.ลานวัฒนธรรมยามเย็น |
|
ใครอยากเป็นอัศวินขี่ม้าขาว.........................เชิญทางนี้ |
นอกจากที่นี่จะมีงานไม้แกะสลักสวยๆ ให้ชมกันแล้ว
ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้เลือกทำอีกด้วย
เช่นการนั่งรถม้าหรือนั่งช้างชมรอบปราสาท
การนั่งเรือออกไปชมวิวปราสาทในมุมมองจากท้องทะเล มีแม้กระทั่งการขับรถ ATV
หรือนวดฝ่าเท้า แต่ละกิจกรรมก็ต้องเสียเงินซื้อเป็น package
เพิ่มขึ้นจากค่าเข้าชมปกติ ...
แต่มีกิจกรรมอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม คือการชม "การแกะสลักไม้"
ซึ่งช่างฝีมือจะทำงานอยู่ในโรงแกะสลัก
เราสามารถเข้าไปชมขั้นตอนการแกะสลักได้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ก่อนกลับบ้านก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก
ซึ่งมีผลงานไม้แกะสลักให้เลือกซื้อกลับไปตกแต่งบ้านกันอีกด้วย .....
|
แบบจำลองปราสาทสัจธรรม |
|
+ ช่างฝีมือกำลังทำงานแกะสลักไม้อยู่ภายในโรงแกะสลัก + |
แวะซื้อกล้วยให้ช้างซะโหน่ย ขาย 3 หวี 100 บาทค้าฟ
|
น่งสงสารจุงเบย.. นายโดนล่ามด้วย
|
|
ดูขาเพ่ช้างซะก่อง
|
|
กิงเก่งเจงๆๆ เบยน้า 3 หวีเลย
|
หลังจากที่ผมได้มาชมความ
อลังการของงานไม้แกะสลักอันวิจิตรตระการตาของปราสาทสัจธรรมด้วยตนเองในวันนี้ สำหรับผม คิดว่าราคาค่าเข้าชม 500.- ผมว่ามันไม่แพง
เมื่อเทียบกับความตั้งใจจริงและความยากลำบากในการก่อสร้างและบูรณะปราสาท
แห่งนี้ หากใครชอบดูผลงานศิลปะแบบไทยๆ และการถ่่ายรูป
ผมคิดว่าไม่น่าจะผิดหวังน่ะค้าฟฟฟ
@ปราสาทสัจธรรม ตื่นตาตื่นใจแอ๊คท่าถ่ายรูป กับปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก (5-12-14)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น